วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เรียนภาษาอังกฤษจาก subtitle ภาพยนต์

                     

วันนี้ครูวิตตี้ได้มีโอกาสดูภาพยนต์แนวคำสอนอิสลามบวกแอคชั่นเรื่องหนึง  คือเรื่องอามีนและได้เรียนรู้คำศัพท์และประโยคภาษาอังกฤษจาก subtitle ของภาพยนต์ซึ่งหลายๆ คำพูดเป็นของท่านนบีมุฮำหมัด และบางส่วนคือคำคำของผู้เขียนบทเอง อยากให้พี่น้องทุกคนได้ลองศึกษาดูครับ

คำสอนของท่านนบีมูฮำหมัด (ซล.)
- Do good deed with our right hand but do not let the left hand know
  ทำความดีด้วยมือข้างขวาโดยมิให้ข้างซ้ายรู้ (หมายถึงทำดีโดยบริสุทธิ์ใจและไม่โอ้อวด)

- None of you is a true believer until he loves for his brothers what he loves for himself.
คนหนึ่งคนใดจะยังไม่เป็นผู้ศรัทธาจนกว่าเขาจะรักพี่น้องของเขาเสมือนเขารักตัวของเขาเอง

- The strong man is not the one who can overpower others. Rather, the strong man is the one who can control himself when he gets angry.
คนที่เข้มแข็งไม่ใช่คนที่สามารถล้มผู้อื่นได้ แต่คนที่เข้มแข็งคือคนที่สามารถควบคุมตนเองได้ในขณะที่เขาโกรธ

-Don't be sad surely Allah is with you
จงอย่าเศร้าไปเลย แท้จริง อัลลอทรงอยู่กับเรา

คำคมจากตัวละครในเรื่อง (บางสำนวนเป็นความรู้จากท่านนบีและอัลกุรอ่านแต่ในภาพยนต์ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนนัก)
- How we expect mercy from others if we don't learn to be meriful to them first.
  เราจะหวังความเมตตาจากคนอื่นได้อย่างไร หากเราไม่เรียนรู้ที่จะเมตตาคนอื่นก่อน

- We must welcome our guest with the best food.
เราจะต้องต้อนรับแขกของเราด้วยอาหารที่ดีที่สุด

- God frequently chose a common person to do a great job.
บ่อยครั้งพระเจ้าเลือกคนธรรมดา
ให้ทำงานยิ่งใหญ่ที่ไม่ธรรมดา

- Somethings won't be seen unless you see them with your inner sights and somethings probably won't be heard unless you listen with your heart.
บางสิ่งอาจจะยังมองไม่เห็นจนกว่าจะใช้สายตาแห่งความเป็นจริงมอง
บางสิ่งอาจจะยังไม่ได้ยินจนกว่าจะใช้หัวใจฟัง

- All individual human lost their memory since the first day they were born into this world. They can't remember what they promised the creator.
มนุษย์เราสูญเสียความทรงจำตั้งแต่วันแรกที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ทำให้พวกเขาจำไม่ได้ว่าได้เคยสัญญาอะไรไว้กับผู้สร้าง

-Actually our lives are defeated by nothing but ourselves.
แท้จริงมนุษย์เราแพ้อะไรก็ไม่เท่าแพ้ใจตนเอง

-  Don't merely look at how much money is left in our pocket but see how much religion is left in ourself.  อย่ามัวแต่ดูว่ามีเงินในกระเป๋าเหลือเท่าไหร่ แต่จงดูว่ามีศาสนาในตัวเหลือเท่าไหร่

- Die today or tomorrow might not make any difference. There would be a difference, though in what we die for.ตายวันตายพรุ่ง ก็ไม่ต่างกัน แต่มันต่างกันตรงที่ เราตายเพื่ออะไร

- Anger is making you fall behind whereas, forgiveness forces you to step forward.
ความโกรธทำให้เราล้าหลัง ในขณะที่ การอภัยทำให้ชีวิตเราก้าวไปข้างหน้า


ครูวิตตีหวังว่าคงจะได้ข้อคิดดีๆ และได้ความรู้ภาษาอังกฤษไปใช้กันนะครับ



วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

แบลคเมย์ หรือ แบลคเมล มันต่างกันไหมน่ะ Blackmail story

ณเดช: อาเงินมาให้ผมสองหมื่น ไม่งั้น ผมจะแบล็คเมย์คุณ
น้องดาว: คุณหลอกดาว คุณจะแบล็คเมย์ดาว อย่าบอกน่ะ ว่าคุณจะปล่อยคลิปนั้น คลิปที่ดาว..ขโมยเพชร.....เพดดีกรี  ไม่น่ะ
นักเรียนคงเคยเจอคำว่า “แบล็คเมย์กันมาแล้ว” จากในละคร หรือจากที่ไหน ๆ มาแล้ว   คุณสงสัยไหมครับว่า คำว่า แบล็คเมย์นี่ฝรั่งเขาใช้กันไหม แล้วมันมีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ครูวิตตี้จะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ
มันเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยก่อนโน้น... เมื่อชาวอังกฤษและช่าวสก๊อตต้องจ่ายส่วยให้กับพวกอันธพาลหัวโจกเพื่อแลกกับการที่จะไม่ถูกระราน คำว่า mail นี้มาจากคำว่า male (เป็นภาษาอังกฤษโบราณ)สมัยโน้น แปลว่า “ส่วย”   แต่เป็นส่วยที่ได้มาจากการขูดรีดไม่เป็นธรรม เขาก็เลยเรียกว่าเป็นส่วยสีดำ  หรือ black mail  แต่ถ้าเป็นส่วยที่ถูกต้องตามกฎหมายเขาก็จะเรียกว่า
white rent โห่ะ ๆ ๆ คงเข้าใจที่มากันแล้วนะครับ
ปัจจุบันคำนี้นำมาใช้กันเยอะนะครับ พจนานุกรมออนไลน์ Longdo.com ได้ให้ความหมายไว้ว่า
blackmail (เขียนติดกัน อ่านว่า แบลคเมล ไม่ได้อ่านว่า “แบลคเมย์” เหมือนกับที่พวกเราเคยได้ยินแต่อย่างใด) เป็นคำนาม (Noun) แปลว่า การขู่กรรโชกทรัพย์โดย  แต่ถ้าเป็นคำกริยา (verb)
blackmail จะแปลว่า ขู่กรรโชกทรัพย์โดยจะเปิดโปงความลับบางอย่าง    และยังมีอีกคำหนึ่งน่าสนใจ คือคำว่า
blackmailer เป็นคำนาม (N) แปลว่า ผู้ขู่กรรโชกทรัพย์
ลองดูตัวอย่างประโยคนะครับ จาก Oxford dictionary
blackmail (V)  She blackmailed him for years by threatening to tell the newspapers about their affair.  หล่อนขู่เขาเป็นเวลาหลายปีว่าจะบอกหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ชู้สาวของเขาทั้งสอง
blackmail (N) We can’t let them practise this emotional blackmail on us.
                         เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขามาขู่เราแบบนี้ได้แล้วนะ (emotional blackmail แปลว่า การเอาความรักมาเป็นเงือนไขในการข่มขู่ เช่นถ้าเธอรักฉันเธอต้องยอมเป็นของฉัน)

ครูวิตตี้หวังว่าคราวนี้พวกเราคงเข้าใจไปถึงก้านสมองเลยนะครับว่า คำนี้อ่านว่า แบลคเมล  ไม่ใช่ แบลคเมย์ และถ้าจะให้รู้ลึกแบบกูรูต้องจำที่มีมาของมัน แล้วอย่างไป blackmail ใครเขาล่ะ มันไม่ดี 555

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

Congratulation Vs Congratulations ใช้ต่างกันอย่างไร

        ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลของการแสดงความยินดีของน้องๆ มัธยม ครูวิตตี้ก็เลยได้เห็นป้ายแสดงความยินดีเยอะแยะเลยในเฟสบุค บ้างก็เขียนว่า congratulation(ไม่เติม s) บ้างก็เขียนว่า Congratulations(เติม s ด้วยล่ะ) แล้วมันต่างกันยังไง ตกลงอันไหนถูกอันไหนผิด งง กันหรือเปล่าครับ วันนี้ครูวิตตี้จะจับคำนี้มานั่งเคลียร์ให้เข้าใจกันไปเลย
เจ้าของภาษาเขาอธิบายไว้ว่า Congratulation is an expression of praise for an achievement or good wishes on a special occasion; the act of congratulating.  คำว่า Congratulation นี้แปลว่า การแสดงความยินดี  ในโอกาสของความสำเร็จ การแสดงการปรารถนาดี ในโอกาสพิเศษ
ส่วนคำว่า  Congratulations เจ้าของภาษาบอกว่า  Congratulations are the words expressing congratulation. มันเป็นคำพูดที่ใช้แสดงความยินดี
           สรุปก็คือ  Congratulation ไม่เติม s แปลว่า   การแสดงความยินดี  เช่น 'I sent him a letter of congratulation.'(ฉันส่งจดหมายแสดงความยินดีไปไปให้) ##สังเกตนะ อันนี้มันไม่ได้เป็นคำพูดแสดงความยินดี แต่มันแค่บอกว่าได้ส่งการ์ดแสดงความยินดีไปให้ เก็ทป่ะ  5555
          Congratulations  เติม s เป็นคำพูดที่ใช้แสดงความยินดี สามารถใช้คำเดียวโดดๆ ได้เลย เช่น ในงานสำเร็จการศึกษาต่าง ๆ เขียนป้ายอวยพรต่าง ๆ  และที่ต้องเติม s ก็เพราะว่ามันประกอบด้วยหลายๆ สิ่งอย่างเช่น ความปรารถนาดี กำลังใจ ความหวัง
ต่อจากนี้คงไม่ใช้ผิดแล้วนะ  ถ้าเพื่อนเรา ไปแข่งขันชนะวิ่งควายที่ชลบุรี เราพูดว่า  Congratulations ยินดีด้วยนะเว้ยเพื่อน
แต่ถ้าเราไม่มีโอกาสได้เจอเพื่อนเราก็เลยส่งไลน์ไปบอกเพื่อนว่า I sent you a letter of congratulation ฉันส่งจดหมายแสดงความยินดีไปให้แกแล้วที่แกชนะวิ่งควาย 

อ้อ..ส่วนวิธีการอ่านคำนี้ ถ้าเปิดพจนานุกรมของฝรั่งหรือเปิดพจนานุกรมในแอพมือถือเขาจะออกเสียงให้เราฟัง  คำนี้อ่านออกเสียงว่า  (พจนานุกรม Oxford University)  ถอดความได้ว่า  
                     เคิ่นแกรทชุเลชึ่นสฺ     ต่อไปนี้ถ้าเจอคำนี้อ่านมันว่า  เคิ่นแกรทชุเลชึ่นสฺ
อย่าอ่านเหมือนครูวิตตี้และเพื่อนๆ สมัยเรียนนะครับ สมัยนั้นพวกเราอ่าน คองกระตู้เลชั่น ซึ่งมันกะหลั่วชะมัดยากเลย 55555

ครูวิตตี้หวังว่าพวกเราคงจะใช้ถูกกันล่ะทีนี้ ให้จำตัวอย่างวิ่งควายของครูไว้ให้ดี 5555



วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แนวข้อสอบกลางภาคMidterm ม.5 และ ม. 6 ปี 2557 โรงเรียนหมอนทองวิทยา



ข้อสอบ ม. 5 มี 31 ข้อ  ประกอบด้วยแบบเขียนตอบ 30 ข้อ   แบบ เขียนบรรยาย 1 ข้อ
นักเรียน ม. 5 สามารถดาวโหลดแนวข้อสอบตามลิ้งค์นี้ ซึ่งเป็นไฟล์ PDF นักเรียนต้องใช้โปรแกรมอ่าน pdf ในคอม หรือในโทรศัพท์

ไฟล์ข้อสอบ ม.5 คลิกที่ลิ้งค์ด้านล่างเพื่อดาวโหลด

แนวข้อสอบ ม. 5 โรงเรียนหมอนทอง





ข้อสอบ ม. 6 มี 31 ข้อ  ประกอบด้วยแบบเขียนตอบ 30 ข้อ   แบบ เขียนบรรยาย 1 ข้อ
นักเรียน ม. 6 สามารถดาวโหลดแนวข้อสอบตามลิ้งค์นี้ ซึ่งเป็นไฟล์ PDF นักเรียนต้องใช้โปรแกรมอ่าน pdf ในคอม หรือในโทรศัพท์

ไฟล์ข้อสอบ ม. 6คลิกที่ลิ้งค์ด้านล่างเพื่อดาวโหลด
แนวข้อสอบ ม. 6 โรงเรียนหมอนทองวิทยา

วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2557

แนวข้อสอบ ม. 5 ปลายภาค ปี 57

แนวข้อสอบ ม. 5 ทบทวนบทเรียน
ตอนที่ 1 จงอ่านข้อความเกี่ยวกับคำอวยพรต่อไปนี้แล้วจับคู่ให้ถูกต้อง โดยเขียนคำตอบด้านหน้า
แนวข้อสอบตอนที่หนึ่งนี้จะเกี่ยวกับการพูดอวยพรในโอกาสต่าง ๆ เช่น
วันเกิด birthday(เบิรธเดย์)  วันปีใหม่  New Year Day (นิว เยีย เด) วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day  วันคริสต์มาส (Christmas  วันแต่งงาน  Wedding Day(เว็ดดิ้ง เด)
เรามาดูกันเลยว่า วันเหล่านี้เค้ามีการอวยพรกันอย่างไรบ้างเป็นภาษาอังกฤษ
วันเกิด birthday(เบิรธเดย์) 
-Happy birthday  
(แฮพปี้ เบิรธเดย์)
สุขสันต์วันเกิด
- I’d like to wish you a very happy birthday. May all your wishes come true.
ไอ  ไล้  ทู  วิช       ยู    อะ  เว้รี่   แฮปปี้   เบิธเดย์     เม   ออล   ยัว   วิชชิส   คัม  ทรู
ฉันขอให้คุณมีความสุขในวันเกิด และขอให้ทุกๆ ความปราถนาของเธอเป็นความจริง
- May you live a long and prosperous life.
เม     ยู      ลีฟ   อะ ลอง   แอน พรอสเพอเริส ไล้ฟฺ
ขอให้คุณอายุยืนและมีชีวิตที่รุ่งเรือง

การอวยพรวันปีใหม่   New Year’s Day
Happy New Year
(แฮพปี้  นิว  เยียร์)
I wish you many year of  happiness.
ไอ วิช ยู เมนี         เยียสฺ    ออฟ แฮพพิเนส
I wish you a Happy New Year,  May this year bring you happiness and strong health.
ไอ วิช ยู  อะ   แฮปปี้  นิว  เยีย        เม         ดีส    เยีย   บริง  ยู  แฮพพิเนส   แอน   สตรอง   เฮลทฺ
วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day 
- Happy Valentine’s Day
แฮพพิ  วาเลนไทน์เด   
สุขสันต์วันวาเลนไทน์
- May you surrounded by love and warmth as the Valentine’s Day begins.
เม ยู            เซอราวดิด      บาย  เลิฟ  แอน  ว้อมทฺ   แอส เดอะ วาเลนไทน์สฺ  เด  บีกินสฺ
ขอให้คุณรายล้อมด้วยรักและความอบอุ่นเนื่องในวันวาเลนไทน์
การอวยพรวันคริสต์มาส Christmas ‘s Day
Merry Christmas
(เมอรี่ คริสต์มาส) สุขสันต์วันคริสมาส
- Merry Christmas. May this festival bring you joy and happiness.
(เมอรี่ คริสเมิส               เม ดิส เฟสติเวิล บริง       ยู    จอย แอน  แฮพพิเนส
สุขสันต์วันคริสมาส ขอให้มีความสุขมาก ๆ ในเทศกาลนี้

การอวยพรงานแต่งงาน
- Happy Wedding Anniversary
(แฮพพี่     เวดดิ้ง       แอนนิเวอซารี
สุขสันต์วันครบรอบแต่งงาน
-You have my best wishes for a life of happiness together.
ยู แฮฟ มาย เบส        วิชเชส    ฟอร์   อะ ไลฟฺ ออฟ แฮพพิเนส ทูเก็ทเท่อะ
การอวยพรในเรื่องอื่น ๆ
- Have a nice day
(แฮฟ อะ  ไนซฺ  เด)  ขอให้มีวันที่ดี
- Sweat dreams  ฝันหวาน
สวีท         ดรีม
- Have a nice dream
แฮฟ อะ ไนซฺ      ดรีม
ขอให้ฝันดี
- Good luck on your exam  
กู้ด ลัค ออน          ยัว อิกแซม
-Bon voyage  
บอน  วอยยาจ  ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
ตอนที่ 3. Choose the correct reflexive pronouns from the dropdown menu.
อ่านประโยคแล้วเติมคำจากตัวเลือกที่มีให้  ตัวเลือกข้อ 11- 20

myself - yourself - himself - herself - itself - ourselves - yourselves - themselves
ในตอนที่สามนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ reflexive pronoun (รีเฟลกซีพ โพรนาว ) คำสรรพนามที่สะท้อนกลับหาประธาน 
มันมีหลักการว่า มีคำสรรพนามบางตัวที่ทำหน้าที่สะท้อนกลับประธานของประโยค เช่น
ฉันทำการบ้านด้วยตัวของฉันเอง       คำว่า ฉัน  เป็นประธาน ของประโยค   ส่วนคำว่า ด้วยตัวของฉันเอง  เป็นตัวสะท้อนประธาน
ตัวอย่างภาษาอังกฤษ
-  I ประธานของประโยค    myself ตัวสะท้อน  เช่น  I do my homework by myself. ฉันทำการบ้านด้วยตัวของฉันเอง
-  you ประธาน(เอกพจน์)    yourself   เช่น   Burapa, did you take the photo by yourself 
                                                                                                    บูรพา         ดิด ยู  เทค    เดอะ  โฟโต บาย ยัวเซ้วฟฺ
บูรพา  เธอถ่ายรูปนี้ด้วยตัวเองใช่ไหม
ผู้ชายคนเดียว ชื่อผู้ชายคนเดียว หรือ He  เป็นประธานของประโยค   คำว่า himself เป็นตัวสะท้อน  เช่น
 Likit made this T-shirt  himself.
ลิขิต  เมด          ดีส    ทีเชิ้ต        ฮิมเซ้วฟฺ
ลิขิต     ทำ    เสื้อตัวนี้     ด้วยตัวของเขาเอง
- ผู้หญิงคนเดียว หรือ  She เป็นประธานของประโยค  คำว่า herself เป็นตัวสะท้อน  เช่น
My mother often talks to herself.
-สัตว์ตัวเดียว หรือ สิ่งของเป็นประธานของประโยค   It     คำว่า  Itself เป็นตัวสะท้อน เช่น
The lion can defend…………………itself………………..

- We เป็นประธานของประโยค   Ourselves เป็นตัวสะท้อน
We helped…………ourselves……………to some cola at the party.
วี    เฮ้วพฺ                เอ้าเอ่อะเซวฟฺ            ทู  ซัม    โคล่า   แอท เดอะ ปาที่
เราช่วย  หมีโคล่า ด้วยตัวของเราเองปาตี้
- They เป็นประธานของประโยค Themselves เป็นตัวสะท้อน
They go to school themselves. พวกเขาไปโรงเรียนด้วยตัวของพวกเขาเองง
- พวกคุณ หรือ You เป็นประธานของประโยค  Yourselves เป็นตัวสะท้อน
Sudarat  and Kritsada, if you want more milk, help……………………yourselves……………………….
สุดารัต  และ กฤษฏา  ถ้าคุณต้องการนมเพิ่ม     คุณต้องช่วยตัวของพวกคุณเอง

ตอนที่ 4.  จงอ่านบทสนทนาต่อไปนี้แล้วตอบคำถามโดยการเขียน
Attendant:(เจ้าหน้าที่) Hello. How can I help you?  สวัสดีให้ฉันช่วยอะไรคุณมั้ย
 Janice: (เจนิส)      I want to report a stolen card. ฉันต้องการแจ้งว่าบัตรเครดิตรฉันถูกขโมยไป
Attendant:           What’s your card number? บัตรของคุณเลขหมายอะไร
Janice:                  It’s 3542 7980 5691. เลขหมาย....35..
Attendant:           What’s your name? คุณชื่ออะไร
Janice:                  Janice  Moskowitz.  เชื่อ เจนิส...
Attendant:           How do you  spell your last name? คุณสะกดนามสกุลของคุณว่าอย่างไร
Janice:                  M-O-S-K-O-W-I-T-Z
Attendant:           What is your date of birth วันเกิดของคุณวันอะไร
Janice:                  May   10 , 1984.
Attendant:           I’m  sorry for the inconvenience, but I need to verify your information. When was the
                              ฉันขอโทษในความไม่สะดวก แต่ฉันต้องการยืนยันข้อมูลของคุณ เมื่อไหร่เป็นครั้งสุดท้ายที่คุณใช้บัตรนี้
                              last time you used your card?
Janice:                  I use it all the time. I think it was for theater tickets yesterday. No, it was for the
                              ฉํนใช้มันตลอดเวลา  ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นเมื่อวานนี้ตรงที่ขายตั๋ว   เอ่ะ หรือจะไม่ใช้ อาจจะเป็นตรงทางเข้าพิพิธภัณฑ์เมื่อเช้านี้ก็เป็นได้
                              entrance fee to museum this morning………..
Attendant:           Which one was it?  ตอนไหนกันแน่
Janice:                  I’m not sure. ไม่มั่นใจเหมือนกัน
Attendant:           Well, I’ll put an immediate stoop on your card. And we’ll issue you a new card.
                              งั้น ฉันจะระงับการใช้บัตรของคุณเดี๋ยวนี้เลยนะ และเราจะทำการออกบัตรให้ไหม่
ตอนที่ 5 : ให้นักเรียนเขียนบทความภาษาอังกฤษ โดยเลือกหัวข้อเพียงหัวข้อเดียวจาก 3 หัวข้อที่กำหนดให้ พร้อมทั้งวาดรูปประกอบง่าย ๆ (หากเขียนไม่ได้จริงๆ ให้เขียนภาษาไทยและอังกฤษปนกัน)
1.  My dream              2. My life style                        3. My close friend      4. My favorite teacher

หัวข้อที่เลือกคือ.....................My life style................................

 ตัวอย่างบทความ
My name is Witty Asaki. I’m 29 years old. My occupation is teacher. I have my interesting life style. Every day , I wake up at 5.00 a.m I brush my teeth and  I pray to Allah then I do exercise 30 minutes after that  I have breakfast and I go to school at 7.00 am. I start working at  8.00 am. – 4.00 pm. then I go home and play volleyball with my friends at mosque .

ตัวอย่างที่ 2.                         หัวขอ้ My close friend 
My close friend is Mr. Bean. I have known him when I was six years old. He is from America. He is tall and slim. He has light skin. He has brown hair and black eyes. He is friendly , talkative and funny. When we have free time , we will watch comedy movie together.  We like to go to the beach together. He always make me laugh. I love him a lot.

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แนวข้อสอบ ม.6



แนวข้อสอบ ม. 6.


สิ่งที่นักเรียนกำลังอ่านอยู่นี้คือแนวข้อสอบ ม. 6 จัดทำขึ้นเพื่อสรุปบทเรียนทั้งหมดที่เรียนเพื่อการทดทบทวนความรู้ และเพื่อการทำข้อสอบ  ข้อสอบทั้งหมดเป็นข้อเขียนทั้งหมด 26 ข้อ   ข้อละ  1 คะแนน  ข้อที่ 26 มี 5 คะแนน  แบ่งออกเป็น 5 ตอน

ตอนที่ 1. ออกสอบเรื่อง collocation คำที่มักต้องใช้คู่กัน เช่น  คำที่มีความหมายว่า  “ขอโทษต้องใช้คำว่า  ใช้คำว่า
apologize for (อะโพโลไจ้สฺ  ฟอร์)   apologize ต้องคู่กับ for   จะใช้ apologize in  ไม่ได้  ต่อจากนี้มาดูรายละเอียดกันว่ามีคำว่าอะไรกันบ้าง
1.  apologize for (อะโพโลไจสฺ ฟอรฺ)  แปลว่า ขอโทษสำหรับ   เช่น
Nattawat apologized for keeping his girlfriend waiting all night.
(ณัฐวัฒน์ อะโพโลไจ้ส์  ฟอร์    คีพปิ้ง  ฮิส     เกิลเฟรนด์  เวทติ้ง  ออล  ไน้)
ณัฐวัฒน์   ขอโทษ        สำหรับ  ที่ปล่อย ให้แฟนของเขา คอย ตลอด ทั้งคืน
2.  succeed in (ซัคซีด อิน)  แปลว่า ประสบความสำเร็จใน
Natarika succeed in passing her exam.
ณัฐริกา      ซักซีด   อิน    พาสซิ่ง   เฮอ  อิกแซม
(ณัฐริกา ประสบความสำเร็จในการทำข้อสอบ)
3. insist on =  ยืนยันในเรื่อง...
Wilasini and Orrasa  insist on being single all their life.
วิลาสินี   แอน    อรสา     อินซิส  ออน  บิอิ้ง ซิงเงิ้ล ออล  แด  ไล้ฟฺ
วิลาสินี  และ อรสา ยืนยันในเรื่อง การครองโสด ตลอดชีวิต
4. talk about   (ทอล์ค  เออะเบ้าทฺ) แปลว่า พูดเกี่ยวกับ........
Ekkarin  and Roongtham  talk about corrupting in Yinglak’s government.
(เอกริน   แอน  รุ่งธรรม           ทอล์ค   เออะเบ้า   คอรัปติ้ง อิน   ยิ่งลัก  กอฟเวินเมิ้นทฺ
เอกรินและ   รุ่งธรรม              คุย เกี่ยวกับ         การทุจริต  ใน  รัฐบาลของยิ่งลักษณ์

5.  think of  (ติ้งออฟ )  แปลว่า คิดที่จะ.............
Siwapan is thinking of  finding a new wife.
(ศิวพัน       อิส  ติ้งก้ง  ออฟ ฟายดิ้ง  อะ นิว ไวฟฺ)
ศิวพันธ์    กำลังคิดที่จะ          หา  เมียใหม่
6.  object to (ออบเจ้ท ทู )  แปลว่า ต่อต้านในเรื่อง................
Suwit object to having homework on the weekend.
(สุวิท   ออฟเจ้ท ทู   แฮฟวิ่ง   โฮมเวิร์ค    ออน   เดอะ  วิคเอ้นดฺ
สุวิทย์ ต่อต้าน         การสั่งการบ้าน    ในวันหยุดสุดสัปดาห์


ตอนที่ 2 จำนวน 5 ข้อ ไม่มีอะไรยากเพียงแต่ทำความเข้าใจบทความต่อไปนี้ให้เข้าใจเท่านั้น
ตอนที่ 2: จงอ่านบทความภาษาอังกฤษ จากนั้นจงตัดสินว่าข้อความภาษาไทยที่กำหนดให้เป็นจริงหรือเท็จ ถ้าเป็นจริงเขียนคำว่า True ถ้าเป็นเท็จเขียนคำว่า False
UK to ban smoking in cars with kids (14th February, 2014)
ประเทศอังกฤษจะการต่อต้านการสูบบุหรี่ในรถยนต์ขณะที่มีเด็กโดยสารอยู่ในรถด้วย
Britain will soon ban smoking in cars with children. Britain's government wants to 
ประเทศอังกฤษจะมีการต่อต้านการสูบบุหรี่ขณะที่มีเด็ก ๆ นั่งโดยสารอยู่ในรถด้วย   รัฐบาลอังกฤษต้องการที่จะ


reduce the harm cigarette smoke does to children. New laws will cut the chances of children passive ลดภัยคุกคามของบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อเด็ก กฏหมายใหม่ที่ออกมากำลังจะตัดโอกาสความเสี่ยงที่เด็กที่เป็นผู้รับควันบุหรี่มือสองmoking. This is when someone breathes in the smoke from a cigarette. Many studies say passive
เมื่อมีบางคนสูบบุหรี่เข้าไปควันจากบุหรี่จะทำร้ายาคนรอบข้างด้วย   ในหลายการวิจัยได้กล่าวไว้ว่า
smoking can almost be as harmful as actually smoking a cigarette. The British government said it looked
บุหรี่สารเป็นตรายแก่คนที่ได้รับควันบุหรี่มือสองเท่า ๆ กับคนที่สูบบุหรี่เสียเอง รัฐบาลของอังกฤษกล่าวว่า เมื่อมองไปที่วิจัยพบว่า
at research that found children who sat in smoke-filled cars had health problems. Britain's leader David
เด็กที่ได้รับสารพิษจากควันบุหรี่มือสอง จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา ผู้นำของอังกฤษ นายเดวิด คาเมร่อนได้กล่าวว่า
Cameron said the problem is particularly bad in cars because there is so little space, so the car fills with
ปัญหานี้มีความรุนแรงมากเนื่องจากในรถยนต์มีพื้นที่จำกัดมาก ดังนั้นเมื่อสูบบุหรี่ควันจะกระจายไปในรถอย่างรวดเร็ว
smoke very quickly. The new law will make it illegal for anyone to smoke in a car that has a child in it.
ดังนั้นกฏหมายใหม่จะทำให้การสูบบุหรี่ในรถยนต์ขณะที่มีเด็กโดยสารอยู่ด้วยเป็นเรื่องผิดกฏหมาย

ตอนที่ 3 เกี่ยวกับร้านอาหาร สำนวนที่จำเป็นต้องใช้ในร้านอาหาร
การจองโต๊ะอาหาร
- I’d like to make a reservation for two people this lunch.
(ไอ ไล้ ทู  เมค อะ  รีเซอเว้ชึ่น  ฟอ ทู พี้เพิ่ล ดีส  ลันชฺ
ฉันต้องการจองโต๊ะสำหรับสองคน
การเลือกที่นั่ง
-We like a table with a view of sea.
 (วี ไล้คฺ  อะ เท้เบิ่ล วิท  อะ วิว ออฟ ซี)
เราอยากจะจองโต๊ะที่มีวิวทะเล
- Could I sit next to the window.?
(คูด ไอ ซิท เน็กสฺ ทู เดอะ วินโด้ว)
ฉันขอนั่งไกล้หน้าต่างได้ไหม

การขอเมนูอาหาร
คำว่าเมนูอาหาร ภาษาอังกฤษใช้คำว่า menu  ออกเสียงว่า  เมนยู  ตัวอย่างประโยค
-Can I have a menu, please?
แคน ไอ แฮฟ อะ เมนยู พลีส
ฉันขอรายการอาหารหน่อยได้ไหม
- May I have the menu please?
เม ไอ แฮฟ เดอะ เม้นยู พลีส
ฉันขอรายการอาหารหน่อยได้ไหม

การถามถึงเมนูพิเศษ

What is today’s special?
(วอท อิส ทูเด สเปเชี่ยว)
วันนี้มีเมนูอะไรพิเศษมั่ง
What is the special menu today?
(ว็อท อิส เดอะ  สเปเชี่ยว เมนยู ทูเด)
วันนี้มีราการอาหารอะไรพิเศษไหม
What will you recommend?
(ว์อท วิว ยู เรคคอมเมิ่น)
ช่วยแนะนำหน่อยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ตอนที่ 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน คำถามเกี่ยวกับการสัมภาษณ์มีอะไรบ้าง และแนวทางในการตอบคำถาม

1.Tell me about yourself.
 (เทว มี     เออะเบ้าทฺ   ยัวเซ้วฟฺ)
ให้บอกเกี่ยวกับตัวคุณ

2. - What are your weakness?
   (ว็อท  อา  ยัว  วีคเนส)
จุดอ่อนของคุณคืออะไร
3. What are your strengths?
 (ว็อท   อา  ยัว   สเตร็นสฺ)
จุด แข็งของคุณคืออะไร
4.  Why should I hire you?
  วาย  ชูด  ไอ  ไฮเอ่อ   ยู?
ทำไมฉันต้องจ้างคุณเข้าทำงาน
5. Why do you want to work for us?
วาย ดู ยู ว้อนทฺ ทู เวิร์ค ฟอ  อัส
ทำไมคุณจึงต้องการที่จะทำงานกับทางบริษัทของเรา

ตอนที่ การถามตอบเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา
คำถามและการแนวคำตอบเกี่ยวกับการศึกษามีดังต่อไปนี้
1. What year are you studying in?
ว็อท เยีย  อาร์ ยู สตัดดี้อิ้ง  อิน?
คุณกำลังเรียนอยู่ปีอะไร
แนวคำตอบ:  I’m studying in…………..ปีที่เรียน.................  เช่น freshman (เฟรชเมิ่น)  แปลว่า นักศึกษา ปีหนึ่ง  second year ปีสอง sophomore (โซฟอเม่อะ ) ปี 3  fourth year ปีสี่  

2.  Where are you studying ?
(แว อา ยู สตัดดี้อิ้ง)
คุณเรียนอยู่ที่ใด
คำตอบ. I studying in…………..ชื่อมหาวิทยาลัย.................เช่น Thammasart Univerity , Burapa University.

3. What is your major?
ว็อท     อิส  ยัว    เม้เจอะ
คุณเรียนสาขาวิชาเอกอะไร
คำตอบ: My major is……………สาวิชาที่เรียน.........เช่น English, computer, accountant
4. What faculty are you  in?
   ว็อท    แฟคคัลตี้  อา ยู อิน?
คุณเรียนคณะอะไร
ตอบ. I’m in…………..ชื่อคณะต่าง ๆ ในมหาลัย 
ตัวอย่างคณะต่าง ๆ  Faculty of education แฟคคัลตี้ออฟเอ็ดยูเค้ชึ่น) = คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์
Faculty of law (แฟคคั้ลตี้  ออฟ ลอว์) = คณะนิติศาสตร์     Faculty of Humanity (แฟคคั้ลตี้ ออฟ  ฮิวมึนึตี้ )  = คณะมนุษยศาตร์  Faculty of communication Art แฟคัลตี้ ออฟ คอมมึนึเค้ชั่น อาท = คณะนิเทศศาสตร์


ตอนที่จงเขียนเล่าถีงแผนชีวิตของตนเอง เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเขียนไม่ได้อนุญาติให้เขียนภาษาไทย+อังกฤษ
....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

ในตอนนี้นักเรียนจะต้องเล่าเรื่องอนาคตตัวเองดังนั้นนักเรียนจะต้องเล่าเรื่องด้วยโครงสร้างแบบอนาคต คือ
future tense เป็นส่วนใหญ่  คือ will + verb 1.  ตัวอย่างบทความเช่น

หัวข้อ   My future plan
My name is Witty Asaki. I’m 18 years old. now I’m going to graduate
ฉันชื่อ                   วิตตี้     อาซากิ     ฉันอายุ  สิบแปดปี                        ขณะนี้ฉันกำลังจะจบ
high school from Monthong Wittaya School. After I graduated, I plan to
มัธยมปลาย         จาก   โรงเรียน หมอนทองวิทยา                              หลังจากจบ                   ฉันวางแผนที่
study in Chulalongkorn University. I will study in English major, the
ที่จะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์              ฉันจะเรียนสาขา  ภาษาอังกฤษ


faculty of Education. After I graduate from university. I will be an
คณะศึกษาศาสตร์              หลังจากจบมหาวิทยาลัยแล้ว                                       ฉันจะประกอบอาชีพ
English Teacher in the rural area because I want to help poor people
ครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนในชนบท               เพราะว่า     ฉันต้องการที่จะ ช่วย    คนจนๆ
I plan to have my own  school one day. I hope my dream will become true.
ฉันวางแผนที่จะมีโรงเรียนเป็นของตัวเอง      ฉันหวังว่าความฝันของฉันจะกลายเป็นจริงสักวัน