วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

5 เทคนิค พิชิตอังกฤษแบบชิว ๆ โดยไม่ต้องไปนอก


5 เทคนิค พิชิตอังกฤษแบบชิว ๆ โดยไม่ต้องไปนอก

โดย ครู Witty ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนภาษาอังกฤษในเมืองไทย(เพราะจน 555+)


                พอพูดถึงภาษาอังกฤษขึ้นมาทีไร วัยรุ่นไทยต้องร้อง อั้ยย่ะ บ่องตง หนูโง่มาก ทำไง๊ทำไง ก็ไม่มีทางเก่งอังกฤษอย่างเด็ดขาด บางคนก็บอกก็บอก จารย์ ไม่มีทางหรอก       ถ้ามีตังค์ไปเรียนนอกก็ว่าไปอย่างพูดได้แน่นอน หรือ ไม่ก็หาเมียฝรั่งสวย ๆ เหมือนเมียพี่บอล ภราดร สักคน รับรองผมจะฝึกทั้งวันคืนเลย 555+ (หื่น)  แต่ที่จริงแล้วภาษาอังกฤษไม่เกี่ยวกับโง่หรือฉลาดหรอกครับเพราะถ้าหากเราพูดภาษาไทยได้ เราก็ย่อมพูดภาษาอังกฤษได้เช่นกัน และก็ไม่จำเป็นต้องไปเรียนเมืองนอกหรือหาเมียฝรั่งหรอกครับ เพราะครูเองก็ไม่เคยไปเรียนเมืองนอกหรือมีเมียฝรั่ง(พยายามหานานล่ะ ไม่มีใครเอา ฮ่า ฮ่า) วันนี้ครูจะแนะนำเทคนิคพิชิตอังกฤษแบบชิว ๆ ให้นักเรียนลองไปปฏิบัติกันครับ รับรองว่าถ้าปฏิบัติได้ตามนี้ ความสามารถด้านภาษาอังกฤษของนักเรียนจะต้องพุ่งทะยานทะลุหลังคาบ้านสู่อวกาศเลยทีเดียว

1.ใช้ social mediaให้เป็นประโยชน์ 
ไหน ๆ วัยรุ่นสมัยนี้ก็บ้าเฟสกันอยู่แล้ว ไหนจะยังมี line , skype และอื่น ๆ ทำไมเราไม่ใช้พวกนี้ฝึกภาษาอังกฤษล่ะ
สมัยครูเป็นวัยรุ่นตอนต้น ครูก็ใช้พวกนี้แหละฝึกภาษา สมัยนั้นครูใช้ Messenger chatและ HiFi(วัยรุ่นบางคนอ่าน หิฟิ) เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราใช้อยู่ทุกวัน หลักการเรียนภาษากล่าวไว้ว่า การเรียนภาษาจะได้ผลดี หากเรานำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ วิธีการคือ ให้เราหาเพื่อนที่สนใจภาษาเหมือนกับเราแล้วแอดเขามาเป็นเพื่อนเรา หรือไม่ก็หาเพื่อนต่างชาติเลยยิ่งดี จากนั้นก็คุยกับเขาทุกวัน ถ้าคุยไม่ได้ก็ใช้ดิชชันนารี่ ขี้เกียจเปิดก็มั่วเอา ลองทำยังงี้ทุกวัน ถ้าไม่เก่งขึ้นก็ให้รู้ไปสิ

2. ดูหนัง ฟังเพลง ให้ได้สาระ
วัยรุ่นชอบความบันเทิงหนุกหนานกันอยู่แล้ว การดูหนังฟังเพลงก็เป็นกิจกรรมท็อปฮิตของวัยรุ่น คิดดูสิจะดีแค่ไหนหากเราดูหนังฟังเพลงแล้วได้ฝึกภาษาไปด้วย(หนังที่ดูต้องไม่ใช่หนังโป้นะครับ เพราะหนังโป้พูดอยูสองคำคือ Oh Yes!) การดูหนังฟังเพลงให้ได้ความรู้ทำได้โดย แทนที่จะดูหนังไทย ฟังเพลงไทย เราก็ลองหันมาดูหนังฟังเพลงฝรั่งบ้าง เดี๋ยวนี้มีดีวิดีหนังหรั่งมากมายเปลี่ยนภาษาได้ มีซับไทย ซับอังกฤษพร้อม เพลงสมัยนี้ก็มีหลายแนว ถ้าเริ่มฝึกฟังเพลงหรั่งแนะนำให้เริ่มจากเพลงช้าก่อนจะดีกว่านะครับ และลองหาเนื้อเพลงเอามานั่งแปลเล่น ๆ ดู ถ้าแปลไม่ออกก็เข้ากูเกิ้ล และหาความหมายได้ในนั้น เช่น  When you say nothing at all+ความหมาย เท่านี้ก็จะได้ฟังกันอย่างรู้ความหมายแล้ว ถ้าเราดูหนังฟังเพลงทุกวัน เราจะได้ทั้งคำศัพท์ ประโยค การฟัง สำเนียง และได้อะไรอีกเยอะครับ

3. อ่านทุกสิ่งที่ชอบ
นักเรียนหลาย ๆ คนอาจจะชอบการอ่าน โดยเฉพาะนิยาย เป็นที่นิยมมากสำหรับนักเรียนหญิง โดยเฉพาะนิยายที่มีฉากรักกุ๊กกิ๊กหวานแหววสยิวกิ้ว ส่วนผู้ชายอาจจะชอบแนวแฟนตาซีต่อสู้ฟาดฟัน บางคนก็ชอบแนวอีโรติกที่มักจะมีหนุ่มสาว      ฟิเจอริ่งกัน จะอ่านแนวไหนใช้วิจารณญาณนะครับ อย่าหมกมุ่น แต่จะดีมากถ้าหากเราจะหันมาอ่านนิยายเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษบ้าง มีหลายสำนักพิมพ์ที่พยายามผลิตนิยายสำหรับฝึกภาษามาให้อ่านกันโดยอำนวยความสะดวกฝุดฝุด เช่น มีคำแปลประโยคยาก ๆ  มีคำแปลคำศัพท์ยาก บางเล่มมีซีดีสำหรับฟังเสียงเหมือนตัวละครเล่าเรื่องให้ฟัง ถ้าเราพยายามอ่านนิยายภาษาอังกฤษรับรองเก่งชัวร์


4. กล้าเผชิญหน้า ทุกครั้งที่มีโอกาส
คนบางคนมีความรู้ภาษาอังกฤษดีมาก รู้ศัพท์ รู้ไวยากรณ์ รู้ทุกอย่าง แต่ไม่รู้อย่างเดียว คือ กูไม่รู้จะพูดยังไง การที่เราจะพูดภาษาอังกฤษเป็นอย่างคล่องแคล่วนั้นมีวิธีการอย่างเดียวคือ ต้องกล้าพูด พูดเยอะ ๆ ปัญหาก็คือ พูดไม่ออก ตะกุกตะกัก ติดขัด ก็เลยไม่กล้า ครูถามอย่างนึงว่า แม้แต่ภาษาไทยของเราเอง ตอนที่เราเกิดมาเราพูดคล่องปรื๋อเลยหรือเปล่า จำได้ไหม กว่าเราจะพูดเก่งพูดคล่องใช้เวลานานแค่ไหน มันคือธรรมชาติของภาษาครับ คือต้องเริ่มจาก การพูดเป็นคำ ๆ ตะกุก ตะกักก่อน จากนั้นค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ ถ้าวันนี้เรากลัวการพูดผิด อายที่จะพูดตะกุกตะกัก จะไม่มีวันที่เราจะพูดภาษาอังกฤษได้เลยตลอดชีวิต ครูเล่าจากประสบการณ์จริง

5. ทำทุกอย่างที่ครูบอกให้เป็นสันดาน
ทุกเทคนิคที่ครูบอกล้วนได้ผลจริงทั้งสิ้นครับ เพราะมันเล่ามาจากประสบการณ์จริง ๆ ของครูที่เรียนภาษาอังกฤษในเมืองไทยแต่สามารถสื่อสารได้ทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียนได้อย่างดีขอให้มั่นใจได้เลย เทคนิคอ่ะครับไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่สันดารขี้เกียจของเราต่างหาก จริงไม๊ ทฤษฏีทางจิตวิทยาบอกว่า หากเราต้องการจะฝึกฝนสิ่งใดให้เป็นนิสัย จะต้องทำสิ่งนั้นติดต่อกัน 21 วัน ดังนั้น หากนักเรียนอยากเก่งอังกฤษ ต้องอดทนและฝืนทำให้ครบ 21 วันและหลังจากนั้นนักเรียนจะติดนิสัยรักภาษาอังกฤษงอมแงมโดยไม่ต้องฝืนเลย เชื่อเป่าล่ะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู กล้าลองหรือเปล่า....???

ทั้งหมดที่ครูนำเสนอขอรับประกันอีกครั้งว่าใช้ได้จริง แต่ก็ขึ้นอยู่ว่านักเรียนจะทำจริงหรือเปล่าเท่านั้นเอง สุดท้ายนี้ขอฝากคติประจำใจของครูว่า Where there’s a will , there’s a way ความสำเร็จจ๋า...รอกรูหน่อยนะ กรูกะลังพยายามอยู่ 55+


4 ความคิดเห็น:

  1. ผลงานคิดเอง เขียนเองนะค้าบ อ่านแล้วแสดงความเห็นหน่อยครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ดีเลยอาจารย์หนูชอบภาษาค่ะ^^ 4/10 (ห้องอาจารย์)

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ2 พฤษภาคม 2556 เวลา 09:25

    ขอบคุณ ครับอาจารย์ เหมากับวัยรุ่น ไทย สมันนี้ ดีครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณสำหรับเม้นให้กำลังใจครับ

      ลบ